การมองไปที่ผู้เป็นเจ้าแห่งการอธิษฐาน

วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้สิ่งใดก็ตามคือการฝึกฝนกับผู้เชี่ยวชาญ แพทย์ เชฟ ช่างไม้ ช่างทำผม และอาชีพอื่นๆ ล้วนเรียนรู้แนวคิดจากตำราก่อน จากนั้นจึงติดตาม “ผู้เชี่ยวชาญ” เพื่อเรียนรู้ทักษะอย่างแท้จริง เราทุกคนทราบดีว่าการศึกษาทฤษฎีนั้นแตกต่างจากการลงมือปฏิบัติมาก เมื่อพูดถึงการอธิษฐาน เราต้องค้นหาผู้เชี่ยวชาญด้านการอธิษฐาน

มาดูกันว่าผู้เชี่ยวชาญด้านการอธิษฐานคือใคร และคุณจะเรียนรู้วิธีการอธิษฐานได้อย่างไร

ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพ การทำอาหาร หรือกังฟู การเรียนรู้เกิดจากการดูและการเลียนแบบ การอ่าน และการฝึกฝนด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ การอธิษฐานก็เช่นเดียวกัน หากท่านต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับการอธิษฐาน ท่านต้องมองไปที่ “อาจารย์” คือพระเยซู ท่านอาจคิดว่าเพราะพระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์จึงมี “สายตรง” พิเศษถึงพระเจ้าในขณะที่ทรงอยู่บนโลกนี้ แต่พระเยซูเสด็จมาไม่เพียงเพื่อเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราเท่านั้น แต่ยังทรงเป็นแบบอย่างและต้นแบบของเราด้วย

การอธิษฐานเป็นส่วนหนึ่งที่ถูกทอเข้าไปในชีวิตของพระองค์บนโลกนี้ ท่านสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการอธิษฐานจากพระเยซูได้มากมาย พระเยซูทรงเผยให้เห็นถึงชีวิตการอธิษฐานของพระองค์เองอยู่เสมอ พระองค์ประทานคำแนะนำ ท้าทายคุณ และช่วยเหลือคุณเมื่อคุณไม่สามารถหาถ้อยคำด้วยตัวเองได้ มาดูด้วยกันว่าท่านจะเรียนรู้อะไรได้บ้างจาก “ผู้เชี่ยวชาญด้านการอธิษฐาน”

คุณทราบหรือไม่ว่าในพระคัมภีร์บันทึกการอธิษฐานของพระเยซูไว้กี่ครั้ง? พระองค์ถึง 25 ครั้ง! นั่นหมายความว่าเรามีตัวอย่าง 25 ครั้งในพระคัมภีร์ที่แสดงให้เห็นว่าพระเยซูทรงจัดการกับการอธิษฐานอย่างไร เราควรจะสามารถเรียนรู้บางสิ่งจากตัวอย่างเหล่านี้ได้ แม้เราจะไม่ได้กล่าวถึงทั้งหมด แต่นี่คือจุดสำคัญบางประการ

เราได้อ่านอยู่เป็นประจำว่าพระเยซูทรงต้องการการพักผ่อน และพระองค์ทรงแสวงหาสถานที่สงบเพื่ออธิษฐานตามลำพัง ดังเช่นที่ปรากฏในพระธรรม มาระโก 1

ในพระธรรมมัทธิว 14 เมื่อพระเยซูทรงทราบว่าลูกพี่ลูกน้องและสหายของพระองค์ คือยอห์นผู้ให้บัพติศมาถูกตัดศีรษะ พระองค์ทรงแสวงหาความสงัดเพื่อจัดการกับความโศกเศร้าของพระองค์ร่วมกับพระเจ้า

พระคัมภีร์บันทึกช่วงเวลาหนึ่งในพระธรรมลูกา 10 เมื่อพระเยซูทรงประสบกับความชื่นชมยินดีอย่างล้นพ้น และพระองค์ทรงเริ่มอธิษฐานขอบพระคุณพระเจ้าในทันที

พระเยซูก็ทรงเคยกลัวเช่นกัน ในวันศุกร์ประเสริฐ พระองค์ทรงอ้อนวอนพระเจ้าขอโปรดอย่าให้พระองค์ทรงทนทุกข์และสิ้นพระชนม์ ในพระธรรมลูกา 22 ยังบันทึกไว้ว่าพระองค์ทรงมีเหงื่อเป็นเลือดไหลออกมาเพราะความกลัวขณะที่ทรงอธิษฐาน

ในพระธรรมลูกา 6 เมื่อพระเยซูทรงต้องตัดสินใจในการเลือก พระองค์ทรงใช้เวลาในการอธิษฐาน พระองค์ทรงปรารถนาให้การเลือกของพระองค์เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า เมื่อพระองค์ต้องทรงเลือกว่าใครจะเป็นสาวกของพระองค์ ผู้ติดตามพระองค์ พระองค์ทรงอธิษฐานตลอดทั้งคืนเพื่อขอสติปัญญาในการเลือกคนที่เหมาะสม

ในพระคัมภีร์ เราพบหลายครั้งที่เมื่อพระเยซูทรงกระทำการอัศจรรย์แล้ว พระองค์ทรงไปอธิษฐาน เช่นเดียวกับที่เราอธิษฐานเมื่อต้องการการอัศจรรย์ในชีวิต พระองค์ทรงอธิษฐานทันทีหลังจากการอัศจรรย์สำเร็จ ดังเช่นในเหตุการณ์การเลี้ยงคนหลายพันคนอย่างอัศจรรย์

สิ่งที่โดดเด่นคือ “ผู้เชี่ยวชาญด้านการอธิษฐาน” ของเราทรงเป็นบุคคลที่มีความอ่อนโยนและมีอารมณ์ความรู้สึก พระเยซูทรงแบ่งปันพระทัยกับพระเจ้าทุกด้าน ทั้งด้านที่ดี ด้านที่ยากลำบาก และด้านที่ท้าทาย พระองค์ทรงให้พระเจ้ามีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันของพระองค์อย่างสมบูรณ์

หากคุณกำลังอ่านบทความนี้ เป็นไปได้ว่าคุณมีความปรารถนาที่จะอธิษฐานด้วยตัวเอง บางทีคุณอาจพบว่าการรู้วิธีอธิษฐานนั้นเป็นเรื่องยาก พระเยซูสามารถช่วยท่านได้อย่างแน่นอน

พระเยซูทรงอธิษฐานต่อพระเจ้าเสมอ พระองค์ทรงมีความสัมพันธ์ส่วนพระองค์กับพระเจ้า พระองค์ทรงเรียกพระเจ้าว่า “พระบิดา” และทรงสนับสนุนให้ท่านทำเช่นเดียวกัน พระเยซูทรงให้เวลากับการอธิษฐานอย่างแท้จริง และทรงจัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่จะช่วยให้พระองค์ทรงรักษาสมาธิไว้ได้ ท่านสามารถอ่านเกี่ยวกับสถานที่ที่พระเยซูเสด็จไปเพื่อทรงพักผ่อน และลองพิจารณาว่าสถานที่ใดจะเหมาะสมสำหรับการอธิษฐานของท่านเอง

พระเยซูยังตรัสว่า “ขอบพระคุณ” อยู่เสมอ ในการอธิษฐานของพระองค์ พระองค์ทรงขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับทุกสิ่งที่พระเจ้าประทานให้ พระองค์ทรงต้องการถ่ายทอดบทเรียนนี้แก่เราในพระธรรมฟีลิปปี 4 ด้วย

"อย่ากระวนกระวายในสิ่งใดๆ เลย แต่จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบทุกสิ่งที่พวกท่านขอ โดยการอธิษฐานและการวิงวอน พร้อมกับการขอบพระคุณ"

และเช่นเดียวกับ “อาจารย์” ที่แท้จริง พระองค์ทรงท้าทายคุณด้วย ให้อธิษฐานอย่างยิ่งใหญ่และกล้าหาญมากขึ้น ดูสิ่งที่พระองค์ตรัสในพระธรรมมัทธิว 17:

พระเยซูตรัสตอบว่า “เพราะว่าพวกท่านมีความเชื่อน้อย เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ถ้าพวกท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ดเมล็ดหนึ่ง พวกท่านจะสั่งภูเขานี้ว่า ‘จงเคลื่อนจากที่นี่ไปที่โน่น’ มันก็จะเคลื่อนไป และสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพวกท่านจะไม่มีเลย”

มีความแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่งระหว่างพระเยซูและผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นๆ ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในทักษะด้านต่างๆ มักมุ่งหาความสมบูรณ์แบบเสมอ แต่พระเยซูไม่ได้ทรงเป็นเช่นนั้น เป้าหมายของพระองค์ไม่ใช่การที่เราจะต้องอธิษฐานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตรงกันข้าม พระองค์เองทรงเตือนถึงอันตรายของ “การอธิษฐานที่สมบูรณ์แบบ”

เราไม่ได้อธิษฐานเพื่อแสดงบนเวที ไม่ใช่เพื่อทำให้ผู้อื่นพอใจหรือเพื่อแสดงให้เห็นว่าเราเป็นคนดีเพียงใด แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ดีหากเราสามารถช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการอธิษฐาน และการแบ่งปันประสบการณ์ของเราสามารถช่วยให้ผู้อื่นเติบโตได้จริงๆ

แต่การอธิษฐานนั้นเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับพระเจ้าเสมอ ไม่มีที่ว่างสำหรับการสวมหน้ากาก ถ้อยคำหรูหรา หรือการอวดอ้าง พระเจ้าทรงทอดพระเนตรเห็นจิตใจของเรา

พระเยซูทรงเตือนเราเกี่ยวกับการอธิษฐานที่ไร้ความหมายและหน้าซื่อใจคด แต่ท่านควรกล่าวอย่างไร? หากท่านพบว่าเป็นการยากที่จะคิดหาถ้อยคำที่เหมาะสม ทันทีหลังจากพระคัมภีร์ตอนนี้ พระเยซูทรงมอบคำอธิษฐานที่งดงาม ซึ่งท่านสามารถอธิษฐานได้เสมอ

คำอธิษฐานตามแบบพระเยซูคริสต์ตรัสสอน เป็นคำอธิษฐานที่มีชื่อเสียงที่สุดในพระคัมภีร์ ดังนั้น หากท่านไม่สามารถหาถ้อยคำในการอธิษฐาน จงอ่านคำอธิษฐานนี้และพิจารณาว่าท่านสามารถเรียนรู้อะไรจากพระเยซูเกี่ยวกับการอธิษฐาน

1. "ข้าแต่พระบิดาแห่งข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงสถิตในสวรรค์ ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก

2. ขอโปรดประทานอาหารประจำวัน แก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในกาลวันนี้ และขอโปรดยกบาปผิดของข้าพระองค์ เหมือนข้าพระองค์ยกโทษผู้ที่ทำผิดต่อข้าพระองค์นั้น

3. และขออย่านำข้าพระองค์เข้าไปในการทดลอง แต่ขอให้พ้นจากซึ่งชั่วร้าย (เหตุว่าราชอำนาจและฤทธิ์เดชและพระสิริเป็นของพระองค์สืบ ๆ ไปเป็นนิตย์ อาเมน)"

คำอธิษฐานนี้เป็น “แบบอย่างที่เป็นเลิศ” ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงสิ่งที่พระเยซูทรงเห็นว่าสำคัญในการอธิษฐาน:

1. การมุ่งความสนใจไปที่พระเจ้า และถวายเกียรติที่เป็นของพระองค์

2. การแบ่งปันสิ่งที่ท่านต้องการ แต่ยังคิดถึงสิ่งที่ท่านสามารถหรือควรให้แก่ผู้อื่น

3. การยอมรับว่าเราต้องการพระเจ้า เพื่อปกป้องเราและสามารถให้อภัยได้

ไม่ว่าท่านจะอธิษฐานตามคำอธิษฐานที่มีอยู่แล้ว (คุณรู้หรือไม่ว่ามีคำอธิษฐาน 650 แบบในพระคัมภีร์) หรือคุณจะเลือกใช้ถ้อยคำของคุณเอง - พยายามรวมองค์ประกอบเหล่านี้เข้าไว้ในคำอธิษฐานของคุณ

ตัวอย่าง พระคัมภีร์ และคำแนะนำทั้งหมดอาจทำให้ท่านรู้สึกสับสนเล็กน้อย ดังนั้นนี่คือสรุปสั้นๆ ของสิ่งที่ท่านสามารถเรียนรู้จากพระเยซูเกี่ยวกับการอธิษฐาน

• A – Attention (ความใส่ใจ) จงรักษาความสนใจและการมุ่งเน้นของท่านไว้ที่พระเจ้า

• B – Thanking (การขอบพระคุณ) จงขอบพระคุณพระเจ้าในทุกสถานการณ์ของชีวิตท่าน

• C – Checking (การตรวจสอบ) จงตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอและปรึกษากับพระเจ้าว่าท่านอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องหรือไม่

• D – Sharing (การแบ่งปัน) จงแบ่งปันสิ่งที่อยู่ในใจของท่าน

เมื่อชีวิตทำให้คุณรู้สึกว่าท้อแท้ คุณสามารถเลือกที่จะลุกขึ้นได้ ด้วยการเริ่มอธิษฐานอีกครั้ง จงก้าวต่อไป ทุกวันคือการเริ่มต้นใหม่!

หากคุณพบว่าการอธิษฐานด้วยตัวเองเป็นเรื่องยาก เรายินดีที่จะอธิษฐานเพื่อท่าน! ส่งคำขออธิษฐานมาที่นี่ หรือเล่าเรื่องราวของท่าน หรือถามคำถามของท่านที่นี่