• TH
    • AR Arabic
    • CS Czech
    • DE German
    • EN English
    • ES Spanish
    • FR French
    • HI Hindi
    • HI English (India)
    • HU Hungarian
    • ID Bahasa
    • IT Italian
    • MG Malagasy
    • NL Dutch
    • NL Flemish
    • NO Norwegian
    • PT Portuguese
    • SV Swedish
    • TA Tamil
    • TH Thai
    • TL Tagalog
    • TL Taglish
    • TR Turkish
วันสำคัญ

เพ็นเทคอสต์คืออะไร?

เพ็นเทคอสต์ (Pentecost) คือวันที่คริสเตียนทั่วโลกร่วมเฉลิมฉลองของประทานจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่อยู่หลังวันอีสเตอร์ครบ 50 วัน (คำว่า “เพ็นเทคอสต์” มาจากภาษากรีกว่า pentēkostē ซึ่งแปลว่า “ห้าสิบ”) และเป็นเวลา 10 วันหลังจากวันเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูคริสต์ (Ascension Day)

แท้จริงแล้ว เพ็นเทคอสต์นับเป็นวันเกิดของคริสตจักรคริสเตียน เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นของพันธกิจของคริสตจักรในโลก ก่อนหน้านั้น (ยกเว้นในกรณีของพระเยซู) พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาสถิตอยู่กับบุคคลเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่ในวันนั้นพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้เสด็จมาสถิตอยู่ในเหล่าสาวกของพระเยซู และประทับอยู่กับพวกเขาตลอดไป ทุกสิ่งได้เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ในเบื้องหลังของวันเพนเทคอสต์

วันเพ็นเทคอสต์ (Pentecost) เป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญของชาวยิวที่ฉลองกันอยู่จนถึงปัจจุบัน วันเพ็นเทคอสต์อยู่ในวันที่ 50 นับจากเทศกาลปัสกา (Passover) ชาวยิวเรียกเทศกาลเพ็นเทคอสต์นี้ว่า Shavuot (שבועות or חג השבועות‎‎) แปลว่าสัปดาห์ พระคัมภีร์ใช้คำว่า Feast of the Week หรือเทศกาลสัปดาห์

จง​ถือ​เทศกาล​สัปดาห์ คือ​เทศกาล​เลี้ยง​ฉลอง​ผล​ต้น​ฤดู​เกี่ยว​ข้าว​สาลี และ​ถือ​เทศกาล​เลี้ยง​ฉลอง​การ​เ​ก็​บ​ผลิตผล​ใน​ปลายปี อพยพ 34:22

นอกจากการฉลองการเก็บเกี่ยวผลแรกแล้ว ชาวยิวยังถือเป็นวันฉลองการรับหนังสือธรรมบัญญัติของโมเสส หรือโทราห์ด้วย

สิ่งที่น่าสนใจคือหลังจากที่พระเยซูทรงฟื้นคืนพระชนม์แล้ว พระองค์ทรงสั่งสอนสาวกอยู่อีก 40 วัน จากนั้นทรงประทานพระมหาบัญชา และได้กำชับให้สาวกรออยู่ก่อนเพื่อรับฤทธิ์เดชจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่พระองค์จะทรงประทานหลังจากที่พระองค์เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ไปแล้ว (กิจการฯ 1:3–4)

เมื่อ​พระ​องค์​ได้​ทรง​พำนัก​อยู่​กับ​อัครทูต จึง​กำชับ​เขา​มิ​ให้​ออกไป​จาก​กรุง​เยรูซาเล็ม แต่​ให้​คอย​รับ​ตาม​พระ​สัญญา​ของ​พระ​บิดา คือ​พระ​องค์​ตรัส​ว่า “ตาม​ที่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ได้​ยิน​จาก​เรา​นั่น​แหละ”​ – กิจการฯ 1:4

ในวันเพ็นเทคอสต์นี้เอง ฤทธิ์เดชของพระวิญญาณฯ ได้เทลงมายังสาวกที่รอคอยอยู่ในเวลานั้น ต่างคนต่างพูดภาษาอื่นๆ (กิจการฯ 2:1–4) เป็นภาษาที่ชาวยิวและชาวต่างชาติผู้เข้ารีตยิวจากหลายประเทศแปลกใจว่าทำไมชาวกาลิลีถึงสามารถกล่าวคำสรรเสริญพระเจ้าในภาษาของเขาได้ เวลานั้นเองเปโตรและพวกอัครทูตจึงยืนขึ้นเทศนาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น และมีผู้เชื่อเข้ามาเป็นสาวกในเวลานั้นถึง 3,000 คนในคราวเดียว (กิจการฯ 2:41)

เปโตรจึงกล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “จงกลับใจใหม่และรับบัพติศมา ในพระนามของพระเยซูคริสต์ให้หมดทุกคน เพื่อพระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของท่านทั้งหลาย แล้วพวกท่านจะได้รับของประทานคือพระวิญญาณบริสุทธิ์กิจการฯ 2:38 

เหตุการณ์ในวันเพ็นเทคอสต์จึงถือเป็นเหตุการณ์ที่พิเศษมาก และยังถือเป็นวันกำเนิดคริสตจักรด้วย

ตรีเอกภาพ

พระวิญญาณบริสุทธิ์คือหนึ่งในสามพระภาคของพระเจ้า คือ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ตามความเข้าใจของคริสเตียนเกี่ยวกับพระเจ้า ซึ่งล้ำลึกเกินกว่าที่มนุษย์จะหยั่งถึงได้โดยสิ้นเชิง

การเฉลิมฉลองวันเพ็นเทคอสต์

เป็นเทศกาลที่เปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดีสำหรับคริสตจักรทั่วโลก ศิษยาภิบาลในบางคริสตจักรสวมเสื้อคลุมที่มีสีแดงเป็นส่วนประกอบ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเปลวเพลิงที่พระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมายังโลก คริสตจักรแต่ละแห่งมีวิธีเฉลิมฉลองวันนี้ในรูปแบบที่หลากหลาย

สัญลักษณ์ของเพ็นเทคอสต์

ในธรรมเนียมของคริสตจักรตลอดประวัติศาสตร์ มีการใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ เพื่อแทนพระวิญญาณบริสุทธิ์และวันเพ็นเทคอสต์ โดยสัญลักษณ์ที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่ เปลวไฟ ลม ลมหายใจของพระเจ้า และนกพิราบ

ภาพด้านล่าง: ภาพประกอบสมัยยุคกลางของเหตุการณ์เพ็นเทคอสต์ จากหนังสือ “Hortus deliciarum” ของ Herrad แห่ง Landsberg (คริสต์ศตวรรษที่ 12)

เพ็นเทคอสต์ครั้งแรก

เพ็นเทคอสต์มีต้นกำเนิดมาจากเทศกาลเก็บเกี่ยวของชาวยิวที่เรียกว่า Shavuot ซึ่งเป็นเทศกาลถวายพืชผลแรกให้แด่พระเจ้า พร้อมทั้งมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ แม้ว่าในวันนั้นจะมีการเฉลิมฉลองในกรุงเยรูซาเล็ม และบรรดาผู้ติดตามพระเยซูก็อยู่ที่นั่น แต่พวกเขากลับไม่ได้เข้าร่วม ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?

เพราะเพียงสิบวันก่อนหน้านั้น พวกเขาเพิ่งได้เห็นพระเยซูเสด็จขึ้นไปในเมฆและหายลับตาไป และขณะที่พวกเขายืนดูอยู่นั้น มีทูตสวรรค์ปรากฏและกล่าวว่า:

สองคนนั้นกล่าวว่า “ชาวกาลิลีเอ๋ย ทำไมพวกท่านถึงยืนจ้องมองฟ้าสวรรค์? พระเยซูองค์นี้ที่ทรงรับไปจากท่านทั้งหลายขึ้นไปยังสวรรค์นั้น จะเสด็จมาอีกในลักษณะเดียวกับที่ท่านทั้งหลายได้เห็นพระองค์เสด็จไปยังสวรรค์นั้น” – (กิจการฯ 1:11)

สาวกยังคงจดจำถ้อยคำของพระเยซูที่ตรัสไว้ว่า
อย่างไรก็ตามเราจะบอกความจริงกับพวกท่าน คือการที่เราจากไปนั้นก็เพื่อประโยชน์ของท่าน เพราะถ้าเราไม่ไป องค์ผู้ช่วยก็จะไม่เสด็จมาหาพวกท่าน แต่ถ้าเราไปแล้ว เราก็จะใช้พระองค์มาหาท่าน (ยอห์น 16:7)