ความกล้าหาญในการเป็นพยานช่วยชีวิตคนได้

จะเกิดอะไรขึ้น หากมีคนพบพระเยซู เพราะคุณก้าวออกไปอย่างกล้าหาญ และเป็นพยานถึงพระองค์?
ฉันอยากแบ่งปันเรื่องราวกับคุณ เกี่ยวกับคริสเตียนคนหนึ่ง และมุสลิมคนหนึ่ง ซึ่งทั้งคู่เชื่อมั่นว่าพวกเขาเชื่อในความจริง ทั้งคู่ต่างต้องการให้อีกฝ่ายรู้ว่า พวกเขาคิดว่าอะไรคือความจริง… ดังนั้นชายคริสเตียนจึงมอบพระคัมภีร์ให้หญิงมุสลิม และเธอก็มอบคัมภีร์อัลกุรอานให้เขาเป็นการตอบแทน
การพบปะนั้น ทำให้ความเชื่อมั่นของหญิงคนนี้สั่นคลอน เธอแสวงหาความจริงด้วยสุดหัวใจ และในที่สุดก็พบ...พระเยซู เธอรู้สึกสำนึกผิดจนถึงกับประกาศว่า "พอกันที… สำหรับฉันแล้ว มันต้องใช้ความเชื่อมากที่จะไม่เชื่อในพระเยซู"
ช่างเป็นคำประกาศที่น่าซาบซึ้งจริง และมันยังเป็นความจริงอีกด้วย การเชื่อว่าพระเยซูไม่มีอยู่จริง ต้องใช้ความเชื่อมากกว่าการยอมรับว่าพระองค์มีอยู่จริงซะอีก ตอนที่ฉันมาเชื่อพระเยซู มันก็เริ่มต้นจากการที่… ฉันไม่สามารถปฏิเสธได้อีกแล้วว่า พระเจ้าหรือพระเยซูไม่มีอยู่จริง ทั้งจากหลักฐานทางพระคัมภีร์ และประสบการณ์ส่วนตัวของฉัน แต่ถ้าก่อนหน้านั้นไม่มีใครมาบอกเล่าความจริงของพระเจ้ากับฉัน ฉันก็คงไม่มีโอกาสได้พิสูจน์พระองค์เลยฉันขอสนับสนุนให้คุณแบ่งปันความเชื่อของคุณกับเพื่อนๆ ของคุณ จงกล้าหาญ อย่ากลัว พระเจ้าจะประทานถ้อยคำที่จำเป็นแก่คุณ
"เมื่อพวกท่านถูกนำมามอบตัวไว้นั้น อย่ากังวลล่วงหน้าว่าจะพูดอะไรดี แต่จงพูดตามที่โปรดประทานให้ท่านพูดในเวลานั้น เพราะว่าผู้ที่พูดนั้นไม่ใช่ตัวท่านเอง แต่เป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์" (มาระโก 13:11)
คุณอาจแปลกใจ… กับสิ่งที่พระเจ้าแห่งการอัศจรรย์สามารถทำผ่านคุณได้ อย่าเก็บความจริงไว้กับตัวเอง การอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้มีไว้เพื่อแบ่งปัน
คุณคือการอัศจรรย์
.png)
