การฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู

ตลอดสัปดาห์นี้ เราได้เดินทางผ่านสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์มาด้วยกัน ทำให้เรารู้ว่ามีความหวังในทุกๆ วัน

เราได้เดินทางมาถึงจุดสูงสุดของสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว นั่นคือ ในวันอาทิตย์แห่งการฟื้นคืนพระชนม์ (หรือวันอีสเตอร์) การฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดของความเชื่อของเรา การคืนพระชนม์ถือเป็นรากฐานที่แท้จริงของคริสต์ศาสนาเลยก็ว่าได้ ความเชื่อทั้งหมดของเราขึ้นอยู่กับความจริงของเรื่องราวนี้ และฉันเชื่อว่าพระคำทุกตอนในเรื่องนี้เป็นความจริง

เช้าตรู่ของวันอาทิตย์ หญิงหลายคน (มารีย์ชาวมักดาลา นางโยอันนา นางสะโลเม และมารีย์มารดาของยากอบ) ไปที่อุโมงค์และพบว่าหินก้อนใหญ่ถูกกลิ้งออกไปแล้ว และทูตสวรรค์ได้ประกาศความหวังสำหรับโลกนี้ ดังนี้…

"...อย่ากลัวเลย เรารู้แล้วว่าพวกท่านมาหาพระเยซูที่ถูกตรึงกางเขน พระองค์ไม่ได้อยู่ที่นี่ เพราะทรงเป็นขึ้นมาแล้วตามที่พระองค์ตรัสไว้นั้น จงมาดูที่ซึ่งเขาวางพระองค์ไว้นั้น" (มัทธิว 28:5-6)

พระเยซูทรงมีชีวิตอยู่ และความหวังในพระองค์เป็นความจริง ความตายถูกกลืนหายไปในชัยชนะแล้ว พระเยซูทรงมีชัยเหนือความตายและกางเขน พระเยซูทรงสร้างทางให้คุณและฉัน ในการมาหาพระบิดาและได้รับความรอด พระกิตติคุณเป็นความจริง และนี่คือการอัศจรรย์

หนึ่งในส่วนที่ฉันชื่นชอบมากที่สุด ของเรื่องราวการฟื้นคืนพระชนม์ คือสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างวัน ฉันรักที่พระเยซูกลับมามีชีวิตอีกครั้ง แต่ฉันยังรักวิธีที่พระองค์เฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ กับประชากรของพระองค์ คุณไม่ดีใจหรือที่คุณเป็นหนึ่งในประชากรของพระองค์ในวันนี้?

ในวันแห่งการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ พระเยซูคริสต์ทรงปรากฏตัวอย่างน้อยห้าครั้ง พระกิตติคุณของมาระโกกล่าวว่า คนแรกที่เห็นพระองค์คือมารีย์ชาวมักดาลา นอกจากนั้น พระเยซูยังปรากฏตัวต่อเปโตร ต่อสาวกสองคนบนถนนทางไปเอมมาอูส และในภายหลังในวันนั้นยังทรงปรากฏต่อสาวกทั้งหมด (ยกเว้นโธมัส) ในขณะที่พวกเขาชุมนุมกันในบ้านเพื่ออธิษฐาน

พระเยซูทรงปรากฏ เมื่อบรรดาสหายของพระองค์ต้องการพระองค์มากที่สุด พระเยซูทรงสำแดงพระองค์อย่างอัศจรรย์ เมื่อพระเยซูทรงทำเช่นนั้น ชีวิตของผู้คนก็เปลี่ยนไปและประวัติศาสตร์ก็เปลี่ยนไปด้วย บันทึกของประจักษ์พยานในพระกิตติคุณ ทำให้หลักฐานที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า การฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์เกิดขึ้นจริง สองพันปีหลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ผู้ติดตามพระเยซูยังคงหลั่งไหลไปเยรูซาเล็ม เพื่อดูอุโมงค์ที่ว่างเปล่านั้น ฉันเองก็ใฝ่ฝันว่าจะได้ไปเห็นด้วยตาบ้างสักครั้ง

ขอให้คุณใช้เวลาสักครู่ และใคร่ครวญถึงการอัศจรรย์และความเชื่อที่ว่า… พระเยซูทรงพระชนม์อยู่ และพระองค์ทรงทำทั้งหมดเพื่อคุณ ช่างเป็นการอัศจรรย์จริงๆ ขอบคุณพระเยซูสำหรับทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทำ ขอบคุณพระองค์สำหรับความรอดของคุณ ขอบคุณพระองค์สำหรับชีวิตของคุณ และโอกาสที่จะเห็นการอัศจรรย์ของพระองค์ในทุกๆ วัน

คุณเป็นหนึ่งในการอัศจรรย์เหล่านั้น และคุณกำลังรับใช้พระผู้ช่วยให้รอดที่ฟื้นคืนพระชนม์

คุณคือการอัศจรรย์