อย่าถูกหลอกโดยการรับรู้ของคุณ

การรับรู้ของเรามักได้รับอิทธิพลจากอดีตของเรา ประสบการณ์ที่เจ็บปวด หรือบริบทของสถานการณ์ปัจจุบันของเรา
บ่อยครั้ง มักมีตัวกรองอยู่ภายในตัวเรา ที่เปลี่ยนแปลงความเป็นจริงของเรา แม้แต่มุมมองของเราต่อพระเยซูก็อาจถูกบิดเบือนได้...
ลองมาดู ยอห์น 20:15 ในพระคัมภีร์ด้วยกัน "พระเยซูตรัสถามว่า “หญิงเอ๋ย ร้องไห้ทำไม? ตามหาใคร?” มารีย์เข้าใจว่าพระองค์เป็นคนทำสวนจึงตอบว่า “นายเจ้าข้า ถ้าท่านเอาพระองค์ไป ขอบอกให้ดิฉันรู้ว่าเอาพระองค์ไปไว้ที่ไหน ดิฉันจะได้รับพระองค์ไป”"
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทันที หลังจากการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู หญิงคนนั้นกำลังมองหาพระศพของพระเยซู ในขณะที่เธออยู่ต่อหน้าพระองค์ สำหรับเธอ พระองค์ทรง...สิ้นพระชนม์แล้ว ทั้งที่พระองค์ทรงมีชีวิตอยู่
เธอไม่ได้คาดหวังว่าพระเยซูจะทรงมีชีวิตอยู่ ซึ่งอธิบายว่าทำไมเธอจึงค้นหาพระองค์...ในบรรดาคนตาย ดังนั้น ชายคนนี้ที่เธอพบในสวนจึงเป็นได้แค่...คนทำสวน ใครจะอยู่ในสวนได้ล่ะ นอกจากคนทำสวน จริงไหม?
กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ อดีตและบริบทรอบตัว มีอิทธิพลต่อการรับรู้ของเธอเกี่ยวกับพระคริสต์
พระเจ้าทรงเป็นใหญ่เหนือทุกวิถีทางแห่งการดำรงอยู่ และการกระทำของพระองค์ วันนี้ พระองค์จะสำแดงพระองค์เองในรูปแบบหนึ่ง และพรุ่งนี้ ก็อาจจะสำแดงในอีกรูปแบบหนึ่ง บางครั้ง เราอาจประหลาดใจที่พระองค์ไม่ทรงกระทำ อย่างที่เราคาดหวังหรือปรารถนา ดังนั้น ในวันนี้ ก็เป็นเช่นเดียวกับทุกวัน พระองค์ทรงอยู่ที่นี่ ทรงมีชีวิตอยู่ และพระองค์ทรงอยู่ใกล้คุณ
ฉันหวังว่า คุณจะไม่มัวมองหาพระเยซูท่ามกลางบรรดาคนตาย เพราะคุณตระหนักได้ว่า พระเยซูทรงพระชนม์อยู่
คุณคือการอัศจรรย์
.png)
