ความสำเร็จที่แท้จริงคืออะไร?

หลายปีก่อน ขณะที่ฉันคิดถึงงานรับใช้ในพันธกิจนักศึกษาที่ฉันเคยทำ ครั้งหนึ่งมีคำถามเกิดขึ้นในใจของฉันว่า “ฉันวัดความสำเร็จของสิ่งที่กำลังทำเพื่อพระเจ้าอยู่ยังไง?”

ตอนนั้นคำตอบของฉันคือ เรื่องของตัวเลขฉันวัดความสำเร็จจากจำนวนของผู้คนที่กลับใจมาหาพระเจ้า หรือรับเชื่อนั่นเอง นั่นแหละคือความสำเร็จของความพยายามของฉันในฐานะผู้รับใช้ ฉันจึงพยายามอย่างหนักในการประกาศข่าวประเสริฐ ทั้งเวลาที่มีโอกาส และไม่มีโอกาส 

และเมื่อเวลาผ่านไป พระเจ้าเปิดเผยให้ฉันรู้ว่า ความสำเร็จที่แท้จริงมีอะไรมากกว่านั้นการที่ชีวิตนับล้านได้รับการสัมผัสด้วยข่าวประเสริฐของพระเจ้ามันที่ดีมาก  การที่โลกได้รู้จักพระบุตรของพระองค์และได้รับความรอด เป็นความปรารถนาของพระองค์แน่นอน แต่เหนือสิ่งอื่นใด ความสัมพันธ์ต่างหากที่มีคุณค่ายิ่งในสายพระเนตรของพระองค์ คำถามสำคัญคือ ผู้คนเหล่านั้นที่กลับใจ กำลังเข้าสู่ความสัมพันธ์กับพระองค์หรือเปล่า? และตัวฉันเองกำลังพัฒนาความสัมพันธ์ไปด้วย ในขณะที่ทำพันธกิจอยู่หรือเปล่า?

สิ่งนี้ทำให้ฉันต้องกลับมาทบทวนใหม่อีกครั้ง ฉันได้ทำสิ่งที่ “ยิ่งใหญ่” ในความเห็นของฉัน และได้ช่วยเหลือผู้คน “จำนวนมาก” ผ่านงานรับใช้ที่ฉันทำ แต่ฉันต้องยอมรับว่า บ่อยครั้งฉันทำลายความสัมพันธ์ และทำร้ายจิตใจของผู้คนผ่านกระบวนการนั้น บางครั้งในขณะที่ประกาศความรักพระเยซูออกไป ฉันกลับลืมสำแดงความรักออกไปด้วย คุณคงพอนึกออกว่าท่าทีการประกาศของฉันในตอนนั้นจะเป็นอย่างไร และอาจเป็นผลที่ทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เสียพระทัยก็ได้ ฉันได้รู้ว่า… ฉันพลาดสิ่งสำคัญไปโดยไม่รู้ตัวเลย

โลกของเรามุ่งเน้นที่งานที่ทำ ผลลัพธ์ ประสิทธิภาพ ตัวเลข เงิน แต่พระเจ้ากลับสนพระทัยในความสัมพันธ์ ความรัก และความเมตตา

พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง พระองค์ทรงเรียกเราให้เป็นเหมือนพระองค์ และพระองค์ทรงเรียกเราว่า “เพื่อน” (มิตรสหาย) (ดูพระคัมภีร์ ยอห์น 15:15)

เหนือสิ่งอื่น พระเจ้าทรงเรียกเราให้เป็นผู้สร้างความสัมพันธ์และสะพานเชื่อม ไม่ใช่เพียงแค่ผู้สร้างพันธกิจและแผนงานเท่านั้น

ตอนนี้ คุณอยากขอให้พระองค์เติมหัวใจของคุณด้วยความรักต่อผู้คนหรือไม่?จงทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ บรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่เพื่อพระองค์ ประกาศข่าวประเสริฐแก่สิ่งทรงสร้างทั้งสิ้น สร้างสาวกจากทุกประชาชาติ

แต่ อย่าลืม สิ่งที่พระเยซูตรัสใน ยอห์น 13:35 ว่า…“ถ้าท่านรักกันและกัน ดังนี้แหละทุกคนก็จะรู้ว่าท่านเป็นสาวกของเรา”

ฉันเชื่อในพลังของมิตรภาพ มิตรภาพจะให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ มากกว่าความคิดเห็นและเป้าหมายเสมอ

ผ่านทางความสัมพันธ์ เราจะสามารถมอบสิ่งที่เราเป็น คือการเป็นลูกพระเจ้า ให้กับผู้อื่น

ดังที่พระเยซูตรัสไว้อย่างงดงามว่า“...แต่เราเรียกท่านว่ามิตรสหาย”

คุณคือการอัศจรรย์