วันสำคัญ

วันอาทิตย์ทางตาลมีการเฉลิมฉลองอะไรบ้าง?

ในวันอาทิตย์ก่อนถึงวันศุกร์ประเสริฐและวันอีสเตอร์ คือ "วันอาทิตย์ทางตาล" (Palm Sunday) เป็นวันที่คริสตจักรระลึกถึงช่วงเวลาที่พระเยซูเสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มโดยทรงลาตัวหนึ่ง ระหว่างการเฉลิมฉลองผู้คนต่างโบกกิ่งใบปาล์ม อะไรทำให้ผู้คนตอบสนองต่อพระเยซูเช่นนั้นเมื่อพระองค์เสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็ม?

สาวกทั้งสองคนนั้นก็ไปทำตามที่พระเยซูตรัสสั่ง จึงจูงแม่ลากับลูกของมันมา แล้วเอาเสื้อผ้าของตนปูบนหลัง และพระองค์ก็ทรงลานั้น ฝูงชนจำนวนมาก เอาเสื้อผ้าของตนปูตามถนนหนทาง บางคนก็ตัดกิ่งไม้มาปูตามถนน ฝูงชนที่เดินไปข้างหน้าพระองค์ กับพวกที่ตามมาข้างหลังก็โห่ร้องว่า “โฮซันนา แก่บุตรของดาวิด ขอให้ท่านผู้ที่เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเจริญ โฮซันนา ในที่สูงสุด มัทธิว 21:6-9

ข้อความนี้ได้บันทึกเหตุการณ์สำคัญในพระคัมภีร์ ที่แสดงถึงการเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างผู้พิชิตของพระเยซูคริสต์โดยทรงลา ซึ่งเป็นการทำให้คำพยากรณ์ในพันธสัญญาเดิมสำเร็จ และแสดงถึงการที่ประชาชนยอมรับพระองค์ในฐานะพระเมสสิยาห์ผู้เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ตลอดพันธกิจของพระองค์ พระเยซูทรงทำสิ่งต่างๆแตกต่างจากความคาดหวังของผู้คน แม้พระองค์จะทรงกระทำการอัศจรรย์มากมาย จนผู้คนเชื่อว่าพระองค์คือผู้ช่วยให้รอด (พระเมสสิยาห์) ที่พระเจ้าทรงส่งมา แต่บ่อยครั้งพระองค์กลับไม่ประพฤติตนเหมือนวีรบุรุษผู้ปลดปล่อยตามแบบที่คนยุคนั้นเข้าใจ

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ครั้งนี้กลับเป็นข้อยกเว้น เมื่อพระเยซูเสด็จเข้าสู่เมืองหลวงก่อนเทศกาลสำคัญที่สุดของอิสราเอล พระองค์ทรงกระทำในลักษณะเดียวกับกษัตริย์ผู้ชนะสงคราม ชาวยิวรู้จักข้อพระคัมภีร์ของผู้เผยพระวจนะโบราณที่กล่าวว่า “ธิดาแห่งศิโยนเอ๋ย จงร่าเริงอย่างยิ่งเถิด โอ บุตรีแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย จงโห่ร้อง นี่แน่ะ กษัตริย์ของเธอเสด็จมาหาเธอ ทรงความยุติธรรมและความรอด พระองค์ทรงอ่อนสุภาพและทรงลา ทรงลูกลา” เศคาริยาห์ 9:9

รับชมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน "วันอาทิตย์ทางตาล" ตามที่เขียนไว้ในพระกิตติคุณยอห์น

video-poster
% บัฟเฟอร์ 00:00
00:00
00:00

ได้รับการสวมมงกุฎเป็นกษัตริย์

พระเยซูทรงแสดงให้เห็นว่าพระองค์คือบุตรของดาวิด คือกษัตริย์ที่พระเจ้าทรงส่งมา ผู้ซึ่งชนชาติอิสราเอลเฝ้ารอคอยมาอย่างยาวนาน พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์และจะประทับบนบัลลังก์ พระองค์จะได้รับการสวมมงกุฎในเมืองหลวงของพระองค์ ผู้คนในวันนั้นเข้าใจสิ่งนี้ และเต็มไปด้วยความยินดีอย่างล้นพ้น

เพื่อให้จินตนาการถึงบรรยากาศได้อย่างถูกต้อง ให้นึกถึงชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ทางทหาร ที่ประเทศที่ถูกกดขี่ได้รับอิสรภาพในที่สุด คุณอาจเคยเห็นภาพเหตุการณ์เช่นนี้ในภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 หรือครั้งที่ 2 ผู้คนต่างปลาบปลื้มยินดี โบกธง และมีความสุขที่ยังมีชีวิตอยู่และเป็นอิสระ

นี่คือลักษณะการเสด็จเข้าเมืองของพระเยซูในวันอาทิตย์นั้น พระเยซูทรงเป็นกษัตริย์ที่พระเจ้าทรงแต่งตั้งที่กำลังเสด็จไปสู่บัลลังก์ นำการปลดปล่อยมาสู่ประชาชาติที่ถูกจองจำมายาวนาน ผู้คนตามถนนต่างทำธงจากกิ่งปาล์มและปูลงบนพื้นเหมือนพรมงดงาม พร้อมกับเสื้อผ้าของพวกเขา นี่คือการเสด็จเข้าเมืองอย่างสมพระเกียรติสำหรับกษัตริย์องค์ใหม่

โฮซันนา!

แผนการที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น

แต่เหตุการณ์กลับเป็นไปในทางที่แตกต่างจากที่ผู้คนคาดหวังไว้อย่างมาก พระเยซูกำลังเสด็จไปสู่บัลลังก์และมงกุฎของพระองค์ แต่ในขณะนั้นบัลลังก์ของพระองค์คือไม้กางเขนที่ถูกสาปแช่ง และมงกุฎของพระองค์ถูกสานด้วยกิ่งไม้ที่เต็มไปด้วยหนาม ฝูงชนที่เคยอยู่ที่นั่นหายไปไหนหมด? ความปีติยินดีอย่างล้นพ้นหายไปไหน?

คุณจำเป็นต้องเข้าใจว่าพระเยซูไม่เพียงแต่ทรงเป็นกษัตริย์ของชาวยิวเท่านั้น แต่ทรงเป็นกษัตริย์เหนือสรรพสิ่งทั้งปวง พระเยซูมิได้เสด็จมาเพื่อช่วยชนชาติอิสราเอลให้พ้นจากการปกครองที่กดขี่ของโรม แต่เสด็จมาเพื่อช่วยมนุษย์ทั้งปวงให้พ้นจากอำนาจที่กดขี่ของบาป แผนการนี้ยิ่งใหญ่และลึกซึ้งเกินกว่าที่ผู้คนจะจินตนาการได้

ทำไมพระเยซูจึงสำคัญ?

ถ้าจะมีใครสักคนที่ยังคงเป็นกระแสให้ผู้คนพูดถึง แม้พระองค์จะไม่ได้เดินอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว — คนนั้นก็คือ “พระเยซู” พระองค์ทรงมีชีวิตอยู่เมื่อกว่า 20 ศตวรรษที่ผ่านมา พระองค์ไม่เคยเขียนหนังสือ ไม่เคยก่อสงคราม ไม่ใช่นักสำรวจชื่อดัง และพระองค์ก็ไม่ได้เป็นผู้ก่อตั้งศาสนาโดยตรง แต่ถึงอย่างนั้น... โลกก็ยังไม่สามารถมองข้ามพระองค์ไปได้

หลักสูตรออนไลน์ "ทำไมพระเยซูจึงสำคัญ?" จะช่วยให้คุณได้ค้นพบมากขึ้นว่า พระเยซูคือใคร และที่สำคัญที่สุด — พระองค์ยังคงมีความหมายอะไรสำหรับโลกในวันนี้ รวมถึงสำหรับชีวิตของคุณโดยเฉพาะ