คุณสามารถเปลี่ยนทัศนคติของคุณไปสู่การขอบพระคุณได้หรือไม่?

ครั้งสุดท้ายที่คุณ “ยาดาห์” คือเมื่อไหร่? 

มีหลายครั้งในชีวิตของเรา ที่ใจของเราเต็มไปด้วยคำขอบพระคุณต่อพระเจ้า หลายครั้งที่เราพบว่าตนเองรู้สึกซาบซึ้งอย่างเงียบๆ และครุ่นคิด เมื่อเร็วๆนี้ ผมได้รับเกียรติอย่างยิ่งใหญ่จากเมืองของผม และผมรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณอย่างเหลือล้น ผมนึกถึงวันเก่าๆ ที่ต้องเสพยาและซึมเศร้าอย่างรุนแรง ผมอดไม่ได้ที่จะสรรเสริญพระเจ้าด้วยคำพูดของผม และหลั่งน้ำตาออกมา

อย่างไรก็ตาม ยังมีบางครั้งที่ต้องตะโกน สรรเสริญ ตบมือ หรือร้องออกมาดังๆ คำว่า การซาบซึ้งในพระคุณ ที่ใช้ในสดุดี 28 คือคำว่า “ยาดาห์” มันดัง อึกทึก และมีพลัง และทั้งหมดนี้มุ่งตรงไปที่พระเจ้า ผมคิดว่าดาวิดรู้สึกเช่นนี้ในสดุดี 28:7 “พระยาห์เวห์ทรงเป็นกำลังและเป็นโล่ของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าวางใจในพระองค์ข้าพเจ้าจึงได้รับความอุปถัมภ์ และจิตใจของข้าพเจ้าก็ปีติยินดี  ข้าพเจ้าจะขอบพระคุณพระองค์ด้วยบทเพลงของข้าพเจ้า” (สดุดี 28:7)

คุณเคยไปงานกีฬาหรือไม่? เสียงเชียร์ดังจนบางครั้งก็ทำให้หูแทบดับ แล้วเราไม่ควรทำเช่นนี้เพื่อพระเจ้าหรือ? แน่นอนว่าเราควร

จอห์น แมกซ์เวล กล่าวว่า “ทัศนคติของเราจะกำหนดระดับความสูงของทัศนคติของเรา”

การซาบซึ้งในพระคุณจะทำให้คุณมีความแข็งแกร่งและมีสุขภาพดี ความสนใจของคุณจะเป็นบวกและมองโลกในแง่ดี คำพูดของคุณจะหนุนใจผู้อื่นและตัวคุณเอง หากคุณมุ่งความสนใจไปที่การสูญเสียและความเจ็บปวด ความหดหู่และความท้อแท้ก็สามารถซึมเข้ามาได้

สัปดาห์นี้คุณจะใช้เวลาสักครู่ทุกวัน เพื่อเขียนรายการทุกสิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณพระเจ้าได้หรือไม่  ทั้งสุขภาพ สถานการณ์การเงิน ความรอด การรักษา และพระวิญญาณของคุณ 

คุณสามารถเปลี่ยนทัศนคติของคุณ ไปสู่การรู้สึกซาบซึ้งในพระคุณได้หรือไม่? คุณสามารถขอบคุณพระเจ้าด้วยเสียงตะโกนดังๆ หรือปรบมือให้พระองค์ได้หรือไม่? มันจะเปลี่ยนบรรยากาศในโลกของคุณไปอย่างสิ้นเชิง

คุณคือการอัศจรรย์

ขอบคุณคำหนุนใจจาก พอล มาร์ค กูเลต์