• TH
    • AR Arabic
    • CS Czech
    • DE German
    • EN English
    • ES Spanish
    • FR French
    • HI Hindi
    • HI English (India)
    • HU Hungarian
    • ID Bahasa
    • IT Italian
    • MG Malagasy
    • NL Dutch
    • NL Flemish
    • NO Norwegian
    • PT Portuguese
    • SV Swedish
    • TA Tamil
    • TH Thai
    • TL Tagalog
    • TL Taglish
    • TR Turkish
วันสำคัญ

วันเสด็จสู่สวรรค์

คุณเคยสูญเสียเพื่อนหรือบุคคลอันเป็นที่รักในชีวิตหรือไม่? คุณยังจดจำช่วงเวลาใดที่มีคุณค่าหรือประทับใจที่สุดได้บ้าง? สำหรับบางคน ช่วงเวลาสุดท้ายที่ได้ใช้ร่วมกันกับบุคคลอันเป็นที่รักอาจเป็นความทรงจำล้ำค่าที่สุด และมักเป็นสิ่งที่ผุดขึ้นในใจเมื่อระลึกถึงเขาหรือเธออีกครั้ง

การเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูคริสต์อาจเป็นประสบการณ์ในลักษณะเดียวกันสำหรับเหล่าสาวกของพระองค์ เป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่พวกเขาได้อยู่กับพระองค์ ผู้เป็นพระสหายอันล้ำค่า เป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นพระองค์ก่อนที่พระองค์จะเสด็จกลับขึ้นสู่สวรรค์ คริสเตียนจำนวนมากทั่วโลกจึงระลึกถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่นี้ แล้วอะไรคือสาระสำคัญของวันเสด็จสู่สวรรค์? และเหตุใดจึงสำคัญยิ่งต่อคริสเตียน… รวมถึงกับคุณด้วย?

เกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น?

พระเยซูและสาวกของพระองค์ได้ผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ มามากมาย พวกเขาร่วมเดินทางไปทั่วแผ่นดินอิสราเอลเป็นเวลา 3 ปี ได้เห็นพระเยซูเทศนา ทำการอัศจรรย์ และรักษาผู้เจ็บป่วย พวกเขาอยู่ในเหตุการณ์เมื่อพระเยซูทรงได้รับการต้อนรับเสมือนกษัตริย์ในกรุงเยรูซาเล็มในวันอาทิตย์ทางตาล พวกเขาเห็นพระองค์กระทำการที่ท้าทายในพระวิหาร และได้ฟังพระดำรัสของพระองค์เกี่ยวกับความยุติธรรม และการให้อภัย

ในวันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาได้ร่วมรับประทานอาหารค่ำมื้อสุดท้ายกับพระเยซู พวกเขารู้สึกสลดใจเมื่อเห็นพระองค์ถูกจับกุม ทรมาน และถูกตัดสินโทษ แม้ว่าพระองค์จะทรงบริสุทธิ์อย่างสิ้นเชิง และพวกเขาเป็นพยานถึงการสิ้นพระชนม์อย่างน่าสยดสยองของพระเยซูบนไม้กางเขนในวันศุกร์ประเสริฐ และได้รับความประหลาดใจอย่างยิ่งเมื่อพบว่าพระองค์ทรงคืนพระชนม์จากความตายในอีก 3 วันต่อมาในวันอีสเตอร์

“เราจะไปหาพระบิดา”

หลังจากที่พระเยซูทรงฟื้นคืนพระชนม์ พระองค์ใช้เวลา 40 วันอยู่กับเหล่าสาวก ทรงสอนพวกเขาให้เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น และความหมายของสิ่งเหล่านั้น ตามที่กล่าวไว้ในพระธรรมกิจการ พระเยซูทรงนำพวกเขาไปยังภูเขามะกอกเทศ ทรงยกพระหัตถ์ขึ้นอวยพร แล้วพระองค์ก็ทรงถูกยกขึ้นสู่ท้องฟ้าในขณะที่เหล่าสาวกของพระองค์ยืนดู และเมฆได้ปกคลุมพระองค์จนลับตา

ขณะพวกเขายืนจ้องมองฟ้าอยู่ สองทูตสวรรค์ได้ปรากฏและกล่าวว่า:
“ชาวกาลิลีเอ๋ย ทำไมพวกท่านถึงยืนจ้องมองฟ้าสวรรค์? พระเยซูองค์นี้ที่ทรงรับไปจากท่านทั้งหลายขึ้นไปยังสวรรค์นั้น จะเสด็จมาอีกในลักษณะเดียวกับที่ท่านทั้งหลายได้เห็นพระองค์เสด็จไปยังสวรรค์นั้น”
กิจการ 1:11

ความหมายของวันเสด็จสู่สวรรค์

บางคนอาจสงสัยว่า “ทำไมวันเสด็จสู่สวรรค์นี้จึงสำคัญนักสำหรับคริสเตียน?”
การที่พระเยซูทรงถูกยกขึ้นต่อหน้าต่อต่ผู้คนมากมายนั้นมีความหมายลึกซึ้งกว่าที่หลายคนคิด

ประการแรก ความจริงที่พระเยซูเสด็จขึ้นด้วยพระกายพระองค์ที่ฟื้นขึ้นจากความตายนั้นสำคัญมาก พระองค์ยังคงอยู่ในรูปร่างของมนุษย์แม้จะแตกต่างจากเดิม แต่ก็ยังเป็นรูปกายทางกายภาพไม่ใช่เป็นเพียงแค่ฟิ้นกลับมาด้วยสภาวะวิญญาณเลือนลางและไม่มีร่างกายเนื้อหนัง เพราะสิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าพระองค์เสด็จไปข้างหน้าเราก่อน และในวันหนึ่งทุกคนที่เชื่อในพระองค์จะได้รับร่างกายใหม่ที่ได้รับการไถ่เช่นเดียวกันกับพระองค์

อีกทั้ง พระเยซูจะทรงอยู่ในพระกายนี้ตลอดไป นั่นหมายความว่า พระองค์ได้ทรงไถ่ร่างกายที่อ่อนแอ เสื่อมถอย และเจ็บป่วยนี้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งเป็นข่าวดีที่ให้ความหวังแก่เราทุกคนที่ยังคงอยู่ในโลกที่ยังไม่สมบูรณ์

ประการต่อมา พระคัมภีร์บันทึกไว้อย่างชัดเจนว่า พระเยซูในพระกายของพระองค์เสด็จสู่สวรรค์ และทรงประทับ ณ เบื้องขวาของพระบิดาในฐานะผู้ทรงเกียรติ อำนาจ และฤทธานุภาพ และย้ำเตือนอีกครั้งหนึ่งว่า พระองค์เองไม่ได้อันตรธานหายตัวไปกลางอากาศ

และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ พระเยซูได้ตรัสแก่เหล่าสาวกว่า:
“อย่างไรก็ตามเราจะบอกความจริงกับพวกท่าน คือการที่เราจากไปนั้นก็เพื่อประโยชน์ของท่าน เพราะถ้าเราไม่ไป องค์ผู้ช่วยก็จะไม่เสด็จมาหาพวกท่าน แต่ถ้าเราไปแล้ว เราก็จะใช้พระองค์มาหาท่าน”
ยอห์น 16:7

“ผู้ช่วย” ที่พระองค์ตรัสถึงคือ พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า เพราะพระเยซูทรงอยู่ในกายหนึ่งเดียว พระองค์จึงไม่สามารถอยู่ทุกหนทุกแห่งพร้อมกันได้ แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตรีเอกภาพ ทรงเป็นพระวิญญาณ และสามารถสถิตอยู่ทุกหนทุกแห่ง พร้อมด้วยฤทธานุภาพของพระเจ้าอย่างไม่มีขอบเขต

นี่จึงเป็นเหตุว่าทำไมพระเยซูจึงตรัสว่าดีกว่าที่พระองค์จะเสด็จจากไป เพื่อส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้ามาหาเรา

เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่?

เมื่อพิจารณาแล้ว เรื่องการเสด็จสู่สวรรค์ดูเป็นเรื่องอัศจรรย์ที่น่าเหลือเชื่อ พระเยซูเสด็จขึ้นท่ามกลางเมฆและกลับไปยังสวรรค์ โดยไม่มีหลักฐานทางกายภาพนอกจากคำบอกเล่าของบรรดาพยานหลายคนที่อยู่ที่นั่น แต่หากว่าเป็นเพียงเรื่องโกหก เหตุใดเหล่าสาวกจึงยอมสละชีวิตเพื่อความเชื่อนั้น?

และความจริงอีกประการหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ศาสนาคริสต์ยังคงเจริญเติบโตและดำรงอยู่อย่างมั่นคง ผ่านการข่มเหงและการตรวจสอบนับพันปี และยังคงเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนมากมาย เป็นพยานยืนยันถึงความจริงในพระเยซู

แล้วต่อจากนี้ล่ะ?

พระเยซูทรงสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้พวกเขาอยู่อย่างเดียวดาย ด้วยความไว้วางใจในพระดำรัส พวกเขาจึงรวมตัวกันในห้องและอธิษฐานรอคอย และพวกเขารออยู่ 10 วัน

จนในที่สุด พระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จลงมาสถิตกับพวกเขาทุกคน สมดังพระสัญญา พวกเขามิได้ถูกทิ้งไว้ให้เดียวดายเหมือนลูกกำพร้า

คุณมีข้อสงสัยหรือไม่ว่าพระเยซูเคยมีตัวตนจริงหรือเปล่า? แท้จริงแล้วมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้มาจากคริสเตียนซึ่งยืนยันถึงการดำรงอยู่ของพระองค์

วันเสด็จสู่สวรรค์จัดขึ้นเมื่อใด?

วันเสด็จสู่สวรรค์จัดขึ้นในวันพฤหัสบดีของทุกปี โดยนับจากวันอีสเตอร์ไป 40 วัน และก่อนวันเพ็นเทคอสต์ 10 วัน ในปีต่อ ๆ ไป จะตรงกับวันที่ 29 พฤษภาคม 2025 และ 14 พฤษภาคม 2026

หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมหรือเจาะลึกเรื่องราว คุณสามารถ:

อ่านพระคัมภีร์

เริ่มแผนอ่านพระคัมภีร์

รับชมภาพยนตร์เรื่อง "ชีวิตของพระเยซูคริสต์"