พระเจ้า พระเยซู และไม้กางเขน คืออะไร?

ความหมายของการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูบนไม้กางเขนนั้นลึกซึ้งและซับซ้อน และไม่มีคำอธิบายใดสามารถถ่ายทอดความสำคัญของมันได้อย่างครบถ้วน อย่างไรก็ตาม จากพระคัมภีร์ไบเบิล เราสามารถสำรวจมุมมองสำคัญสามประการที่เปิดเผยความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่แสดงออกผ่านการถูกตรึงกางเขนของพระเยซู

หากคุณเชื่อในพระเจ้าตามพระคัมภีร์ไบเบิล พระองค์ทรงสมบูรณ์แบบในทุกๆ ด้าน—ทรงศักสิทธิ์ ทรงแสนดี ทรงบริสุทธิ์ และไร้ที่ติโดยสมบูรณ์ ส่วนเรา ในฐานะมนุษย์ ไม่ได้เป็นเช่นนั้น

ความไม่สมบูรณ์แบบของเรา ทำให้เราไม่สามารถยืนอยู่ในการทรงสถิตของพระเจ้าผู้บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ได้ เปรียบเสมือนการก้าวเข้าไปในน้ำที่ร้อนจัด—เราไม่สามารถทนได้ พระคัมภีร์ไบเบิลแสดงให้เห็นถึงความจริงนี้ ผ่านประสบการณ์ของบุคคลต่างๆ เช่น ผู้เผยพระวจนะอิสยาห์

เพื่อให้มนุษยชาติสามารถเข้าถึงพระเจ้าได้ จำเป็นต้องมีทางแก้ปัญหา ความจริงอันน่าอัศจรรย์คือพระเจ้าเองทรงส่งพระบุตรองค์เดียวของพระองค์คือพระเยซูคริสต์ และเสด็จมาในโลกเพื่อรับตำแหน่งมนุษย์ที่สมบรูณ์แบบแทนเรา ด้วยการทำเช่นนี้ พระเยซูทรงเป็นตัวแทนของมนุษยชาติทั้งหมด ทำให้พระเจ้าสามารถคืนดีกับพระองค์เองและชำระหนี้ของเรา

ผ่านการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูบนไม้กางเขน ความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้าและมนุษยชาติได้รับการฟื้นฟู การเสียสละของพระองค์ได้ขจัดอุปสรรคที่แยกเราออกจากพระเจ้า

อย่างไรก็ตาม การคืนดีนี้ไม่ได้มอบให้โดยอัตโนมัติแก่ทุกคน เป็นข้อเสนอจากพระเจ้าที่ต้องการการตอบสนอง พระองค์ทรงมอบของขวัญนี้ด้วยความรัก แต่พระองค์ทรงปรารถนาให้เรายอมรับด้วยความเต็มใจ ด้วยความรักตอบแทนพระองค์ พระเจ้าไม่ทรงบังคับผู้ใด เพราะความรักที่แท้จริงไม่สามารถบีบบังคับได้—ต้องเป็นการเลือกโดยสมัครใจ

คริสเตียนที่ได้เลือกแล้วประสบกับความสมบูรณ์ของความสัมพันธ์ที่ได้รับการฟื้นฟูนี้ทุกวัน และพวกเขาปรารถนาอย่างลึกซึ้งให้ผู้อื่นได้รู้จักเช่นกัน นอกจากการนำมาซึ่งการคืนดีกับพระเจ้าแล้ว การถูกตรึงกางเขนของพระเยซูยังเป็นตัวอย่างสูงสุดของการเห็นแก่ผู้อื่น พระองค์ทรงมอบพระองค์เองทั้งหมดเพื่อประโยชน์ของเรา พระคัมภีร์ไบเบิลเรียกร้องให้ผู้เชื่อนำเอาทัศนคติแห่งการรับใช้ ความเอื้อเฟื้อ และการให้แบบเดียวกันนี้มาใช้ในชีวิตของพวกเขาเอง

เมื่อมนุษย์คู่แรกกบฏต่อพระเจ้า พวกเขาได้นำมนุษยชาติทั้งหมดสู่สภาวะที่ล้มลง เปิดโอกาสให้ความชั่วร้ายเข้ามามีอำนาจ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โลกได้อยู่ภายใต้การกดขี่ของอำนาจที่เป็นศัตรูกับพระเจ้าโดยซาตาน

การถูกตรึงกางเขนของพระเยซูสามารถเปรียบเทียบได้กับการบุกนอร์มังดีของฝ่ายพันธมิตรในวัน D-Day เมื่อฝ่ายพันธมิตรขึ้นบกที่ชายหาด เป็นที่ชัดเจนว่าการปลดปล่อยเป็นเพียงเรื่องของเวลา กองกำลังฝ่ายศัตรูก็ตระหนักเช่นกัน ยังคงมีการต่อสู้อีกข้างหน้า และความยากลำบากที่ต้องอดทน แต่ชัยชนะสุดท้ายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ในทำนองเดียวกัน การสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ เรายังคงอาศัยอยู่ในโลกที่ความชั่วร้ายก่อให้เกิดความทุกข์ทรมาน แต่ชัยชนะสุดท้ายกำลังจะมาถึง แม้แต่อำนาจแห่งความมืดก็ตระหนักถึงความจริงนี้ พวกมันรู้ว่าพระเยซูจะเสด็จกลับมาเพื่อทำให้ทุกสิ่งถูกต้อง และเมื่อพระองค์ทำเช่นนั้น ความชั่วร้ายและความตายจะถูกเอาชนะอย่างสมบูรณ์

ปัจจุบันเราอาศัยอยู่ในช่วงระหว่างวัน D-Day และวัน V-Day ช่วงเวลาที่พระคัมภีร์ไบเบิลเรียกว่า "ยุคแห่งพระคุณ" ยังมีโอกาสให้เลือกว่าคุณจะยืนอยู่ตรงไหน คุณจะยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของผู้กดขี่ หรือคุณจะเลือกพระเยซู พระผู้ปลดปล่อย?

ไม้กางเขนยืนเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักของพระเจ้า การฟื้นฟูความสัมพันธ์ของเรากับพระองค์ และชัยชนะสุดท้ายเหนือความชั่วร้าย ทางเลือกขึ้นอยู่กับคุณ